หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

สรุปเนื้อหา วิชา MR303

สรุปเนื้อหา วิชา MR303

การวัด   ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง
การวัดผลการศึกษา  คือ  การเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวนักเรียน โดยครอบคลุมด้านพุทธิพิสัย  เจตพิสัย ทักษะพิสัย
การประเมินผล ต้องประกอบด้วย  มีการตัดสินคุณค่า และมีเกณฑ์การประเมิน
การประเมินผลการศึกษา  คือ  การนำผลการวัดมารวมกันหลาย ๆ ครั้ง เพื่อสรุปผล เรียกว่า การตัดเกรด
การวัดผลอิงกลุ่ม    คือ  การนำคะแนนไปเทียบกับกลุ่ม เช่น ได้ที่ 50  จากนักเรียน 100  คน
การวัดผลอิงเกณฑ์  คือ  การนำคะแนนไปเทียบกับเกณฑ์ เช่น  ได้เกรด  A,B,C,D,F
การวัดแบบ Nominal scale  มาตรานามบัญญัติ   คือ ตัวเลขหรือสัญลักษณ์แทนคุณสมบัติ ไม่มีความหมาย เช่น  ห้อง 1/1
การวัดแบบ Ordinal scale มาตราอันดับ บอกลำดับแต่บอกไม่ได้ว่าห่างกันแค่ไหน เช่น  นาย ก. สอบได้ที่ 1 นาย ข. สอบได้ที่ 2
การวัดแบบ Interval scale มาตราอัตรภาค  บอกได้ว่ามากกว่ากันเท่าไร แต่ไม่มีศูนย์แท้  เช่น  นาย ก. สอบได้  50 คะแนน  นาย ข. สอบได้  20  คะแนน
การวัดแบบ  Ratio scale มาตราอัตราส่วน  มีศูนย์แท้ และบอกความห่างกันได้ เช่น  ความสูง วัดน้ำหนัก
การหาพิสัย  ค่าคะแนนสูงสุด -  คะแนนต่ำสุด
การหาค่าเฉลี่ย  =  
การหาค่ามัธยฐาน  คือ  เลขตรงกลาง  โดยเรียงลำดับน้อยไปหามาก  ถ้าเลขมีจำนวนเป็นคู่  เอาเลข 2 ตัวตรงกลางมาบวกกันหารด้วย 2  ถ้าเป็นจำนวนคี่  ใช้เลขตรงกลางได้เลย เช่น   1 2 3 4 5   จะได้   3 
หรือ 
1 2 3 4 5 6  จะได้   เอา  3 + 4 = 7 หาร 2 = 3.5
การหาฐานนิยม  คือ หาเลขที่ซ้ำกันมากที่สุด  เช่น   2 3 4 4 5 = 4  หรือ  2 3 4 4 5 5 =  4,5
หรือ  2 3 4 4 5 5 6 6 6  =  6
ค่าความแปรปรวนจะมากหรือน้อย
                                ถ้าเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยมาก  แปรปรวนมาก
                                ถ้าเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยน้อย =  แปรปรวนน้อย
                                ถ้าเบี่ยงเบนคงที่จากค่าเฉลี่ย  =  แปรปรวนคงที่ คือ ไม่มีความแปรปรวน
  1. เอาข้อสอบไปสอบนักเรียน 30 คน ได้  18  คะแนนเท่ากันหมดความแปรปรวนเท่าไร
ตอบ       0  ไม่มีความแปรปรวน
  1. ความแปรปรวนชุด 1  เป็น 4  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เป็นเท่าไร
ตอบ       2   เพราะ  เอา  4  ถอดราก  2   =  2
การหาค่าความสัมพันธ์
                ถ้า  rxy    =    +1.00   จะมีความสัมพันธ์เป็นเส้นตรง
ถ้า  rxy                   =    -1.00    จะมีความสัมพันธ์ตรงข้ามกัน
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สมบูรณ์ต้องประกอบด้วย
                เงื่อนไข  พฤติกรรมที่คาดหวัง  และ เกณฑ์
                เช่น  เมื่อกำหนดเลข 2 จำนวนให้ นักเรียนสามารถบวกเลข 2  จำนวนที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 100  ได้ถูกต้อง  4 ข้อ จาก 5 ข้อ
พฤติกรรม
ความรู้ ความจำ
ความคิด ปัญญา
รวม
อันดับความสำคัญ
เนื้อหา
ความเข้าใจ
นำไปใช้
วิเคราะห์
1. ลักษณะสำคัญของภาษาไทย
3
-
-
3
5
2
2.  คำและความหมายของคำ
6
1
2
4
13
1

9
1
2
7
19


ตารางนี้แสดงว่าสอนเนื้อหาทั้งหมดใช้เวลา  19  ชั่วโมง
ถ้าต้องการสอน 40 ชั่วโมง  จะต้องสอนเนื้อหา 1  กี่ชั่วโมง
                 
แบบทดสอบ  วัดพฤติกรรมด้วยข้อสอบ
แบบสอบถาม  การเก็บข้อมูลโดยให้ตอบคำถามที่เตรียมไว้
การสัมภาษณ์  เก็บข้อมูลด้วยการถามตอบ
การสังเกต  คือ  จดบันทึกด้วยการเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ
การตรวจสอบรายการ   ตรวจสอบพฤติกรรมตามรายการที่เตรียมไว้
แบบบันทึก  จดพฤติกรรม
สังคมมิติ  ศึกษาความสัมพันธ์ของคนที่อยู่ร่วมกัน
แฟ้มสะสมผลงาน  เก็บรวบรวมผลงาน ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน
คุณลักษณะของข้อสอบทีดี ประกอบด้วย
-                    เที่ยงตรง    คือ  วัดได้ตามจุดมุ่งหมาย เช่น วัดวิชาคณิตศาสตร์ก็ต้องเป็นข้อสอบวัดคณิตศาสตร์
-                    ความเชื่อมั่น  คือ  วัดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม
-                    ความเป็นปรนัย  คือ  ชัดเจนในคำถาม  ให้คะแนนตามเกณฑ์  แปลความหมายได้ชัดเจน
-                    ความยากง่ายของข้อสอบ   ข้อสอบต้องหลากหลายมีความยากสลับกับง่าย
-                    อำนาจจำแนก  ข้อสอบแยกเด็กเก่งกับเด็กอ่อนได้
ข้อสอบเลือกตอบ เราจะใช้ข้อสอบเลือกตอบเพราะ
-                    ถามได้ครอบคลุม
-                    ให้คะแนนยุติธรรม
-                    วิเคราะห์คุณภาพข้อสอบได้ง่าย
-                    วัดได้ลึกกว่าข้อสอบปรนัยอื่น  ๆ
ข้อสอบแบบอัตนัย เราจะใช้ข้อสอบนี้เมื่อ
-                    เมื่อต้องการวัดความสามารถในการเขียน
-                    เมื่อมีเด็กจำนวนน้อย
-                    เมื่อไม่ต้องการใช้ข้อสอบซ้ำอีก
-                    เมื่อมีความมั่นใจในการตรวจ
ข้อดี
-                    ให้อิสระในการตอบ
-                    แก้ปัญหาการเดา
-                    สะดวกที่จะใช้กับเด็กจำนวนน้อย
-                    ประหยัดเวลาในการออกข้อสอบ
-                    ใช้ได้ดีในการวัดความคิด
การเขียนข้อสอบวัดพฤติกรรม
                1.  วัดความรู้ ความจำ  การวัดความสามารถในการระลึก ถึงข้อเท็จจริง ประกอบด้วย
                                -  ความรู้ในเนื้อเรื่อง   เกี่ยวกับศัพท์ นิยาม  กฎและความเป็นจริง
                                - ความรู้ในวิธีดำเนินการ  เกี่ยวกับระเบียบแบบแผน  เกี่ยวกับลำดับขั้นและแนวโน้ม การจัดประเภท  เกณฑ์ วิธีการ
                                - ความรู้รวบยอดในเนื้อเรื่อง  รู้หลักการและข้อสรุปทั่วไป  เกี่ยวกับทฤษฎีและโครงสร้าง
                2.  ความเข้าใจ  ตีความได้ ประกอบด้วย
                                -  การแปลความหมาย
                                -  การตีความ
                                -  การขยายความ
                3.  การนำไปใช้   นำความรู้ไปแก้ปัญหาได้
                4.  การวิเคราะห์   แยกแยะรายละเอียด หาประเด็น เหตุการณ์ ได้ ประกอบด้วย
                                - วิเคราะห์ความสำคัญ
                                - วิเคราะห์ความสัมพันธ์
                                - วิเคราะห์หลักการ
                5. การสังเคราะห์   ผสมผสานสองสิ่งรวมกันเกิดสิ่งใหม่ แปลกจากเดิม ประกอบด้วย
                                -  สังเคราะห์ข้อความ
                                - สังเคราะห์แผนงาน
                                - สังเคราะห์ความสัมพันธ์
                6.  การประเมินค่า  ต้องมีเกณฑ์และการตัดสินคุณค่า เช่น  ตัดสินว่า ดี-เลว ควร-ไม่ควร มี
                                -  ประเมินค่าโดยอาศัยข้อเท็จจริงภายใน
                                - ประเมินค่าโดยอาศัยข้อเท็จจริงภายนอก
การวิเคราะห์ข้อสอบ
P = ความยากง่าย
R = อำนาจจำแนก
การแปลความหมาย
                P = 0.81 - 1.00  ง่ายมาก
                P = 0.61 - 0.80  ค่อนข้างง่าย
                P = 0.41 - 0.60  ยากง่าย ปานกลาง พอเหมาะ
                P = 0.21 - 0.40  ค่อนข้างยาก
                P = 0.00 - 0.20  ยากมาก
  1. เกณฑ์ในการพิจารณาค่า r
0.40           ขึ้นไป  ดีมาก
0.30-0.39                                         ดี
0.20 ถึง 0.29 พอใช้
ต่ำกว่า  0.20  ใช้ไม่ได้
ความหมายของคะแนน T ปกติ ดังนี้
                คะแนน T  30  หมายถึง   ชนะเพื่อนอยู่   2  คน  ใน  100  คน
                คะแนน T  40  หมายถึง   ชนะเพื่อนอยู่   16  คน  ใน  100  คน
                คะแนน T  50  หมายถึง   ชนะเพื่อนอยู่   50  คน  ใน  100  คน
                คะแนน T  60  หมายถึง   ชนะเพื่อนอยู่   84  คน  ใน  100  คน
                คะแนน T  70  หมายถึง   ชนะเพื่อนอยู่   98  คน  ใน  100  คน





ให้ตารางวิเคราะห์หลักสูตร ดังนี้
พฤติกรรม
ความจำ
เข้าใจ
นำไปใช้
วิเคราะห์
สังเคราะห์
ประเมินค่า
รวม
เนื้อหา
-
8
4
2
6
-
20
4
4
8
3
-
2
21
2
4
10
1
4
1
22
2
-
6
2
-
3
13
8
4
2
7
-
3
24
รวม
16
20
30
15
10
9
100

ข้อสอบอาจจะเว้นช่องในตารางให้เติมคะแนนที่หายไป

  1. จากตารางเนื้อหาใดมีความสำคัญน้อยที่สุด
ตอบ  ง.  เพราะ  ผลรวมคะแนนน้อยสุด คือ 13
  1. เนื้อหาข้อใดสำคัญที่สุด
ตอบ  จ.  เพราะ  ผลรวมคะแนนมากสุด คือ 24
  1. เนื้อหาใดมีความสำคัญพอ ๆ กัน
ตอบ  ดูที่ตัวเลือกให้มา เพราะ เป็นได้ทั้ง เนื้อหา ก และ ข  หรือ ข และ ค
  1. เนื้อหาใดเน้นพฤติกรรมด้านการไปใช้มากที่สุด
ตอบ   ค.  เพราะ มีคะแนนในช่องนำไปใช้มากที่สุด คือ 10
  1. เนื้อหาใดไม่เน้นพฤติกรรมด้านความเข้าใจเลย
ตอบ   ง  เพราะไม่มีคะแนนเลย
  1. เนื้อหา ข  ไม่เน้นพฤติกรรมด้านใด
ตอบ  การสังเคราะห์
  1. เนื้อหา จ เน้นพฤติกรรมใดมากที่สุด
ตอบ  ความจำ






1 ความคิดเห็น:

  1. The Best Slots & Casinos 2021 | DrmCD
    Slots - the #1 provider of quality Vegas casino games 전라남도 출장샵 and slots, Casino has been around 안동 출장마사지 since 2005. With 경상남도 출장샵 over 500 titles 부천 출장샵 to choose from, 밀양 출장샵 we want you to

    ตอบลบ